ข้อมูลทั่วไปที่ควรรู้

ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อต่างประเทศ เรียนนอก เรียนต่ออังกฤษ เรียนต่ออเมริกา เรียนต่อนิวซีแลนด์ เรียนต่อแคนาดา Study Overseas

 

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการสอบต่างๆ

IELTS (International English Language Testing System) คือ การวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษสำหรับผู้สนใจทั่วไป
โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อ หรือรับการฝึกอบรมใน ต่างประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา
สหรัฐอเมริกา และผู้ที่มีความประสงค์จะย้ายถิ่นฐาน 
ไปยังประเทศออสเตรเลีย หรือนิวซีแลนด์ IELTS เป็นการทดสอบการใช้
ภาษาอังกฤษทั้ง 4 ทักษะ คือ การฟัง การพูด การอ่านและการเขียน คะแนนเต็มในแต่ละทักษะและคะแนนรวมเต็ม 9

 

IELTS มี 2 แบบ
เพื่อการศึกษาต่อ (ACADEMIC modules)
เพื่อเป็นการทดสอบความพร้อมในการศึกษาต่อในต่างประเทศ ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งในระดับ ปริญญาตรี และปริญญาโท



เพื่อการฝึกอบรม (GENERAL TRAINING modules) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวัดความพร้อมเพื่อศึกษาต่อในระดับมัธยม
การฝึกอบรมหรือ ทำงานในต่างประเทศที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ข้อสอบไม่ซับซ้อนมาก

 

 

ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อต่างประเทศ เรียนนอก เรียนต่ออังกฤษ เรียนต่ออเมริกา เรียนต่อนิวซีแลนด์ เรียนต่อแคนาดา studyoverseas

 

การสอบ TOEFL เป็นการสอบวัดความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษสำหรับคนต่างชาติที่ไม่ได้มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่
เพื่อนำผลคะแนนไปยื่นกับสถาบันการศึกษาที่หมายตาเอาไว้ โดยใช้เป็นส่วนหนึ่งในคุณสมบัติที่ใช้สมัครเรียนระดับต่างๆ

 

การสอบ TOEFL ในอดีตประกอบด้วย 2 แบบ คือ สอบแบบที่ใช้กระดาษในการทำข้อสอบ (Paper-based Testing) และ
การสอบที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำข้อสอบ (Computer-based Testing) กระทั่งปี 2005 ได้เปลี่ยนแปลงการสอบให้สอบผ่าน
อินเตอร์เน็ต (iBT TOEFL: Internet Base Test)โดยเลิกใช้การสอบทั้ง 2 แบบ

 

การสอบแบบ iBT TOEFL เป็นการสอบทักษะภาษาอังกฤษแบบบูรณาการ เป็นการสอบที่ต้องใช้ทักษะภาษาอังกฤษทั้งการพูด
ฟัง อ่าน และเขียนในการสอบ โดยการสอบแต่ละส่วนจะเชื่อมโยงกันทั้งหมด ผู้สอบต้องตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูดทั้งหมด เพราะหมาย
ความว่าเราจะตอบ พูด หรือเขียนไม่ได้เลยถ้าไม่ตั้งใจฟังตั้งแต่แรก คะแนนเต็ม 120 คะแนน

 

ตารางเทียบผล TOEFL และ IELTS

 

IBT  TOEFL

CBT TOEFL

TOEFL 
Paper based

IELTS 

0 - 8

0 - 30

0 - 310

0 - 1

9 - 18

33 - 60

310 - 343

1 - 1.5

19 - 29

63 - 90

347 - 393

2 - 2.5

30 - 40

93 - 120

397 - 433

3 - 3.5

41 - 52

123 - 150

437 - 473

4

53 - 64

153 - 180

477 - 510

4.5 - 5

65 - 78

183 - 210

513 - 547

5.5 - 6

79 - 95

213 - 240

550 - 587

6.5 - 7

96 - 110

243 - 270

590 - 637

7.5 - 8

111 - 120

273 - 300

640 - 677

8.5 - 9

คะแนนเต็ม

คะแนนเต็ม

คะแนนเต็ม

คะแนนเต็ม

120

300

677

9

 

*นอกจากนี้ยังมีผลสอบอื่นๆที่เทียบเท่าที่นักเรียนสามารถใช้สอบแทนผล IELTS/TOEFL ได้ เช่น Cambridge Test, Pearson Test
(PTE) เป็นต้น ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาสอบถามทีเจ้าหน้าที่ SOC

 

ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อต่างประเทศ เรียนนอก เรียนต่ออังกฤษ เรียนต่ออเมริกา เรียนต่อนิวซีแลนด์ เรียนต่อแคนาดา Study Overseas

 

เกณฑ์การวัดผลสอบ GMAT
เกณฑ์การสอบ GMAT จะเน้นความรู้ 3 ส่วน: พื้นฐานทางด้านภาษา (Basic Verbal), คณิตศาสตร์ (Mathematical) และทักษะ
ด้านการเขียนวิเคราะห์(Analytical Writing คะแนนของ GMAT ทั้ง 3 ส่วนจะเท่ากัน คือ 200-800 คะแนน ดังนั้นคะแนนเต็มของ GMAT
คือ 2,400 คะแนน The Graduate

 

Management Admission Test หรือ GMAT คือ การประเมินผลทางด้านภาษาอังกฤษที่ช่วยให้ทางสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวเนื่องกับ
ทางด้านธุรกิจในการประเมินคุณสมบัติของผู้สมัครเรียนในสาขาธุรกิจและการจัดการ (Business & Management) สถาบันการศึกษา
ใช้ผลสอบนี้เป็นเกณฑ์วัดเพื่อเข้าศึกษาในหลักสูตรทางด้าน MBA หรือในหลักสูตรระดับสูงกว่าปริญญาตรี ที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดการ
(Management)

(แปลและอ้างอิงข้อมูลจาก http://www.gmat.org )

 

 

ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อต่างประเทศ เรียนนอก เรียนต่ออังกฤษ เรียนต่ออเมริกา เรียนต่อนิวซีแลนด์ เรียนต่อแคนาดา Study Overseas

 

 

ความรู้เกี่ยวกับการสอบ GRE


Graduate Record Examination หรือ GRE แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ GRE General Test และ GRE Subject Test

GRE Subject Test เป็นการวัดผลความรู้ระดับปริญญาตรีใน วิชาเฉพาะด้านจำนวน 8 สาขาวิชาและสามารถช่วยประเมินความ
สามารถของผู้สมัครว่ามีคุณสมบัติเพียงพอในการเรียน ระดับปริญญาโท และปริญญาเอก (Graduate School) ในส่วนของข้อสอบ
GRE Subject Test เหมาะสำหรับนักเรียนที่จบหรือมีพื้นฐานความรู้เฉพาะด้านได้แก่

  • Biochemistry, Cell Molecular Biology
  • Biology
  • Chemistry
  • Computer Science
  • Literature in English
  • Mathematics
  • Physics
  • Psychology

 

GRE General Test เป็นการสอบ เพื่อวัดทักษะของผู้สอบที่มีอยู่โดยวัดออกมา ในรูปของคะแนนของความสามารถทางภาษา
(Verbal Reasoning) การคำนวณ (Quantitative Reasoning), ความสามารถในการคิดเชิงวิเคราะห์ (Critical Thinking) และการเขียน
ในเชิงวิเคราะห์ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับความรู้สาขาวิชาใดๆเป็นพิเศษ

 

แปลอ้างอิงข้อมูลจาก http://www.gre.org

 

 

ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อต่างประเทศ เรียนนอก เรียนต่ออังกฤษ เรียนต่ออเมริกา เรียนต่อนิวซีแลนด์ เรียนต่อแคนาดา Study Overseas

 

 

ความรู้เกี่ยวกับการสอบ SAT

SAT หรือ Scholastic aptitude Test I และ SAT II หรือ Scholastic aptitude Test II ซึ่งแต่ก่อนเรียกว่า Achievement Test
หรือ Act เป็นข้อสอบที่ใช้วัดระดับความรู้ ความสามารถของนักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาตรีใน มหาวิทยาลัยต่าง
ประเทศโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และแคนาดาและบางมหาวิทยาลัยที่สอนหลักสูตรนานาชาติในเมืองไทย

 

ข้อสอบ SAT แบ่งออกเป็น 7 section เวลาในการสอบ 3 ชั่วโมง โดยจัดแบ่งข้อสอบดังนี้

  • SAT Verbal : มี 3 ส่วน ซึ่งทดสอบในเรื่องของ Reading , Grammar และ Analytical Reasoning โดยมีรูปแบบของ
    คำถามเป็น Analogies,Sentence Completion และ Critical Reading ระยะเวลาของการสอบคือ 1 ชั่วโมง 15 นาที
  • SAT Math : มี 3 ส่วนเช่นกัน ซึ่งทดสอบในเรื่องของ Algebra, Arithmetic และ Geometry โดยมีรูปแบบของคำถาม
    แบบ QuantitativeComparisons (QCs), Regular Math และ Grid-ins ระยะเวลาของการสอบคือ 1 ชั่วโมง 15 นาที
  • Experimental : การสอบใน 1 section ที่เหลือนี้ จะเป็นเรื่องของบททดสอบ ซึ่งอาจเป็นทางด้านของVerbal หรือ Math
    และใช้เป็นข้อมูลภายในของ ETS เท่านั้น คะแนนในส่วนนี้ จะไม่นำมารวมกับคะแนนในส่วนอื่นๆ

 

 

 

ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อต่างประเทศ เรียนนอก เรียนต่ออังกฤษ เรียนต่ออเมริกา เรียนต่อนิวซีแลนด์ เรียนต่อแคนาดา Study Overseas

 

 

ความรู้เกี่ยวกับการสอบ ACT

ข้อสอบ ACT มีคะแนนเต็มทั้งสิ้น 36 คะแนน จากการสอบทั้งหมด 5 ส่วนดังต่อไปนี้

  • 1) English (75 ข้อ 45 นาที) ลักษณะการสอบจะเป็นการวัดทักษะทาง Grammar
  • 2) Mathematics (60 ข้อ 60 นาที) ประกอบไปด้วยเนื้อหา Algebra, Geometry และ Trigonometry โดยผู้สอบสามารถ
    ใช้เครื่องคิดเลขได้
  • 3) Reading (40 ข้อ 35 นาที) ประกอบไปด้วย 4 Passage ในเรื่องต่อไปนี้:Prose Fiction (เรื่องสั้นหรือนวนิยาย),
    Social Science (ประวัติศาสตร์, เศรษฐศาสตร์, จิตวิทยา เป็นต้น), Humanities (ศิลปะ, ดนตรี, การออกแบบ เป็นต้น),
    Natural Science (Physics, Chemistry, Biology เป็นต้น)
  • 4) Science Reasoning (40 ข้อ 35 นาที) ประกอบไปด้วย 7 Passage โดยแต่ละ Passage จะมีคำถาม 5-7 คำถาม
  • 5) Writing (30 นาที) โดยคะแนนในส่วนนี้จะมีผลต่อคะแนน English เท่านั้น หากผู้สอบทำคะแนนในส่วนนี้ได้น้อย
    จะส่งผลให้คะแนน English ต่ำลงไป

 

ACT หรือ American College Testing
เป็นการสอบวัดระดับทักษะการใช้เหตุผลและการสื่อสารที่จำเป็นสำหรับการเรียนในระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัย ข้อสอบ ACT เป็น
แบบทดสอบมาตรฐานสำหรับนักเรียนในระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย (High School) ในประเทศสหรัฐอเมริกามักจะต้องสอบเพื่อนำผล
คะแนนไปสมัครเรียนในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป

 

ข้อสอบ ACT ถือเป็นคู่แข่งโดยตรงของ SAT
มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกามักจะยินดีรับผลสอบทั้งสอง ขึ้นอยู่กับว่านักเรียนจะเลือกใช้ผลตัวไหนยื่นสมัครเรียน